Seminarที่เมืองจีนวันนี้เราคุยกันเรื่องบทบาทของภาษาอังกฤษในฐานะของภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ที่มีต่อความเป็นตัวตนของเรา(identity) ได้คุยกับเพื่อนๆนักวิจัยจากหลายๆประเทศพบว่ามีมุมมองที่คล้ายๆกันตรงที่ว่า ในประเทศตัวเองนั้น การที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี จะมีผลต่อความเป็นตัวตนด้านสถานะทางสังคม เพราะมีผลทำให้ได้งานที่ดีขึ้น ดูมีการศึกษามากขึ้น ในบางประเทศจะถือว่าดูเป็นผู้ดีขึ้นมา ว่างั้นเถอะ ถือเป็นการยกระดับสถานะ ซึ่งในบางประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่จริงๆเช่น ประเทศในแอฟริกาบางประเทศมีภาษาท้องถิ่นเป็นภาษาราชการด้วย แต่การศึกษาระดับมัธยมกับอุดมศึกษาจะใช้แต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ทำให้เป็นการแยกระดับสังคมไปเลย แต่ในประเทศเรา จะไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น
อีกจุดหนึ่งที่ครูม่อนคิดว่าครูม่อนส่วนตัวเห็นว่าสำคัญคือ ภาษาอังกฤษช่วยให้แสดงความคิดเห็นและแสดงอารมณ์ได้ง่ายขึ้น ในฐานะที่โตมากับสังคมเอเชีย รู้สึกว่าเวลาจะแสดงออกความเห็นต่อผู้ใหญ่ หรือแสดงอารมณ์รู้สึกว่าไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ในขณะที่พอเริ่มใช้ภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ จะชินในการแสดงความเห็นด้วยภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะในสังคมฝรั่งมีวัฒนธรรมในการแสดงความเห็นและแสดงอารมณ์ต่อผู้ใหญ่และต่อคนอื่นโดยภาษาอังกฤษเยอะ ทำให้เราชินในการใช้ภาษาอังกฤษ พอเราอยู่ในcontextนั้นเยอะๆ เราก็ชินที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการแสดงความเห็น ในการโต้แย้ง ในการแสดงอารมณ์ เคยถามเพื่อนคนไทยที่เก่งภาษาอังกฤษ เขาก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันนะ เพราะว่าบ้านเราไม่ค่อยมีวัฒนธรรมที่ให้เราได้แสดงออกความคิดเห็นหรือแสดงออกอะไรมากเท่าไหร่ เราเลยไม่ค่อยชินกับการใช้ภาษาไทยในการแสดงความเห็น โต้แย้ง แสดงอารมณ์ โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ ซึ่งครูม่อนถามเพื่อนในเอเชียบางคนก็พบปรากฏการณ์นี้เหมือนกัน ซึ่งครูม่อนคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียวที่ทำให้เห็นว่า ภาษาแม้แต่ภาษาที่สองที่สาม มีผลต่อตัวตนของเรามากทีเดียว แต่ในจุดนี้ ครูม่อนคิดว่า เรื่องที่สามารถทำให้แสดงความเห็นได้ง่ายขึ้นเนี่ย ถือเป็นข้อดีมากๆของการได้ภาษาอังกฤษ ทำให้ทุกวันนั้นชอบเขียนไดอารีและจดเป็นภาษาอังกฤษเพราะส่วนตัวเห็นว่าแสดงออกความคิดเห็นได้ง่ายกว่าภาษาไทยอีกจ้ะ