ก้าวสั้นๆสู่ก้าวกระโดด
กว่าจะเก่งได้หนทางอีกตั้งยาวไกล แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว มีอะไรต้องทำอีกเยอะ ไม่มีเวลา ยังไงก็ทำไม่ทัน อยากจะเก่ง writing แต่สายไปแล้ว เวลาไม่พอ
กว่าจะเก่งได้หนทางอีกตั้งยาวไกล แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว มีอะไรต้องทำอีกเยอะ ไม่มีเวลา ยังไงก็ทำไม่ทัน อยากจะเก่ง writing แต่สายไปแล้ว เวลาไม่พอ
Author: ดร.ณัฏฐ์ภัทร์ ชาญเชาวน์กุล (ครูม่อน) Cover art: อธิกฤต ชาญเชาวน์กุล (โดม) Date:
การอ่านเป็นวิธีสร้าง English brain ได้ดีมาก ทำให้เราหัดคิดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ พออ่านเยอะๆเราก็จะคิดเป็นภาษาอังกฤษเก่งขึ้นเรื่อยๆ เดือนพ.ค.เป็น Mental health awareness
เล่มนี้เพื่อนแนะนำให้ไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านซะที จนกระทั่งเมื่อคืนอยากหาหนังสือดีๆมาอ่านเลยหยิบเล่มนี้มา อ่านแล้วทึ่งจริงๆ ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่มีมาหลายพันปี ถ้าถามว่าทำไมสังคมถึงได้พัฒนามาแบบนี้ ทำไมถึงเป็นคนยุโรปที่ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์และความก้าวหน้าต่างๆจนกระทั่งถือเป็นผู้นำของโลกในปัจจุบัน? เป็นเพราะคนยุโรปฉลาดกว่าเหรอ? หนังสือเล่มนี้อธิบายว่าไม่ใช่เป็นเพราะความฉลาด หรือความแตกต่างทางเชื้อชาติ
ปกติไม่ค่อยได้เจอนิยายที่ถูกใจเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ดีมากๆในความเห็นของม่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องของจุดมุ่งหมายหรือความหมายในชีวิตของสุนัขตัวหนึ่งที่กลับมาเกิดหลายครั้ง จนได้ค้นพบจุดหมายในชีวิตของตัวเอง ใครที่เป็นคนรักสุนัขรับรองว่าต้องถูกใจเรื่องนี้ เพราะผู้เขียนเขียนบรรยายเหตุการณ์จากมุมมองของสุนัขได้อย่างลึกซึ้ง และแม้กระทั่งขบขันในบางตอน ซึ้งมากจนตัวเองอ่านแล้วก็น้ำตาไหลหลายครั้งเลยทีเดียว แต่สาระที่สำคัญของหนังสือเล่มนี้ที่ม่อนคิดว่า แม้แต่คนที่ไม่ได้ชอบสุนัขอะไรมากมายก็คงจะประทับใจ
ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เริ่มจากสองอย่างนี้ก่อนเลยค่ะ 1.ทบทวน (หรือเรียน) แกรมมาให้แม่นๆ แล้วแต่ระดับภาษาของแต่ละคนนะคะ แนะนำว่าให้หาหนังสือแกรมมามาอ่านและทำแบบฝึกหัดดู ถ้าทำได้ก็อ่านผ่านๆเป็นการทบทวน ถ้าไม่ได้ ก็ต้องเอาให้แม่นค่ะ
วิธีหนึ่งที่จะทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็วมาก ก็คือ การเขียนไดอารีเป็นภาษาอังกฤษ อย่าค่ะ! อย่าเพิ่งคิดว่า ยากอ่ะ! จะไปเขียนได้ยังไง พูดยังไม่ได้ อ่านก็ไม่รู้เรื่องจะให้เขียนไดอารีเป็นภาษาอังกฤษได้ยังไง มันไม่จริงหรอกค่ะ
มีหลายคนชอบถามว่า เริ่มเข้ามาชอบอ่านหนังสือได้อย่างไร ถ้าไม่นับที่พ่อแม่ชอบซื้อหนังสือให้อ่านตั้งแต่เด็กๆ ก็คงยกความดีส่วนหนึ่งให้นิตยสารสรรสาระ(Reader’s digest)ค่ะ สรรสาระเป็นนิตยสารที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ โดยจะเป็นการนำเรื่องที่น่าสนใจในหลายๆด้านมาเขียนให้อ่านง่ายๆเหมาะกับคนทั่วไป ถ้าใครไม่เคยเห็นก็ลองไปดูที่แผงหนังสือทั่วไปก็มีค่ะ เล่มละ 110