fbpx

เรากำลังใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกคณะกันแน่

Share This Post

Share on email
Share on facebook
Share on twitter

ใน การเลือกคณะเรียนต่อ มีปัจจัยหลายๆอย่างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเรา แต่ ในท้ายที่สุด เหตุผลที่จะทำให้เราเลือกคณะ อะไรนั้นก็แบ่งได้ออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ
1. เหตุผลที่ผิวเผิน
2. เหตุผลที่ลึก ซึ้ง

เหตุผล ที่ผิวเผิน เช่น จบมาแล้วรวยไหม จะมีชื่อเสียงไหม มีเกียรติไหม ดูดีไหม
เหตุผลที่ลึก ซึ้ง เช่น ทำแล้วเราจะมีความสุขไหม ทำแล้วเราจะพอใจไหม เราจะทำอะไรให้คนอื่นได้บ้าง

ถ้า เราอยู่ในช่วงกำลังตัดสินใจ ให้ลองนึกดูว่า เรากำลังจะเลือกคณะนี้ เพราะเหตุผลที่ผิวเผิน หรือ เพราะเหตุผลที่ลึกซึ้งตรงกับตัวเรา ถ้าเหตุผลหลักๆที่เลือกเป็น เพราะเหตุผลที่ผิวเผินล่ะก็ คงจะต้องลองคิดใหม่แล้วล่ะ ค่ะ

ทำไม ล่ะ เราจะเลือกเพราะเหตุผลที่ผิวเผินไม่ได้เหรอ?
ได้ ค่ะ เป็นชีวิตของเรา ไม่มีใครว่าหรอก แต่อย่าลืมว่า เหตุผลที่ผิวเผิน มันมีรากฐานมาจากการที่เรา คิดว่า เมื่อเราได้สิ่งเหล่านี้มา แล้วจะมีความสุข เช่น เมื่อรวย เมื่อมีชื่อเสียง เมื่อมีหน้ามีตาในสังคม  แต่จริงๆแล้ว เมื่อคนเราเปลี่ยนไป สิ่งที่เราคิดว่าจะทำให้เรา มีความสุขมันก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะคุณค่าของเราเปลี่ยน แปลงไป  ตอน วัยรุ่น สิ่งที่สำคัญก็มักจะเป็นการ ได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆและสังคมรอบข้าง เมื่อเป็นวัยทำงานก็มักจะ เป็นเงินทอง แล้วแต่ละคนก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นกับวิถีทางในการเติบโต ของแต่ละคน ตอนเป็นวัยรุ่นอาจจะยังมอง ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นะคะว่า อะไรจะไปสำคัญกว่าเพื่อน แต่ลองไปถามผู้ใหญ่ก็ได้ค่ะว่า สิ่งที่สำคัญในชีวิตมัน เปลี่ยนไปตามช่วงวัยจริงหรือเปล่า

เพราะ ฉะนั้น ถ้าเราเลือกเพราะเหตุผลที่ผิวเผิน เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เราเคยคิดว่าสำคัญ นั้น มันกลับไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เราก็จะลำบากค่ะ  เหมือนตอนที่ม่อนเลือก เรียนหมอ เมื่อมองย้อนกลับมา ม่อนเองก็ต้องยอมรับว่าเลือก ไปด้วยเหตุผลที่ผิวเผินนะคะ ตอนนั้นก็คะแนนถึง แล้วเพื่อนๆก็เรียนหมอกันหมด เราจะไปเรียนอะไรดีล่ะ ก็คงต้องเรียนหมอนี่แหละ ดูดีสุดแล้ว แต่พอเรียนๆไป โตขึ้นก็รู้ว่า การดูดี หรือ การทำอะไรเหมือนเพื่อนเนี่ย แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรกับ ชีวิตเราเลย

แต่ถ้าเราเลือกด้วยเหตุผล ที่ลึกซึ้งที่มาจากใจ มาจากตัวตนของเรา ว่า เราชอบสิ่งนี้ เราทำแล้วมีความสุข เราทำแล้วเกิดความพอใจ (satisfaction) มันจะยั่งยืนกว่ามากค่ะ

แล้วความชอบ ความพอใจของเรา ไม่เปลี่ยนแปลงหรือ?
เปลียนแปลงแน่นอนค่ะ เพราะคนที่เติบโตคือคนที่ไม่เคยหยุดการเรียนรู้ ฉะนั้นความชอบก็ต้องเปลียนไป
แต่ การเปลี่ยนแปลงนั้น มันจะเป็นไปในลักษณะของการรู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้เข้าใจความต้องการของ ตัวเองมากขึ้น เหมือนเป็นการปรับแต่งมากกว่า แล้วเราก็จะค่อยๆโตขึ้นจน พร้อมกับความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเองด้วย
ม่อนจะยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองดีกว่านะคะ ให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น  ม่อนเองตอนที่ตัดสินใจว่า อยากจะทำงานด้านการศึกษา เป็นเพราะเหตุผลที่ลึกซึ้ง เพราะม่อนรู้ว่าตัวเองชอบเห็นคนอื่นเติบโต และจะดีใจถ้าตัวเองได้เป็นส่วน ช่วยให้เขาได้เติบโตขึ้น ตอนแรกๆม่อนก็ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าอยากเป็นอะไรแน่ รู้แต่ว่าอยากทำงานด้านการ ศึกษา ก็คิดไว้ว่า น่าจะเป็นครู ไม่ก็อาจจะทำงานด้านการ บริหารโรงเรียน ก็คิดไว้แค่นี้  เคยมีคนถามว่าอยากทำงานด้าน วิชาการไหม ก็คิดนะคะว่าคงไม่แน่ๆ  ไม่คิดว่าไม่ชอบอะไรที่เป็น ทฤษฎี ชอบอะไรทีเป็นทางปฏิบัติมากกว่า

ตอน แรกๆที่เรียนที่ฮาร์วาร์ด ต้องอ่านเรื่องทฤษฎีการศึกษา ทฤษฎีจิตวิทยาและพัฒนาการ ก็ไม่ค่อยชอบหรอกค่ะ เพราะคิดว่าไม่เห็นจะมี ประโยชน์ในชีวิตจริงเท่าไหร่เลย   แต่พอไปประมาณเทอมสอง เริ่มอ่านมากๆเข้า ทำงาน ทำโปรเจคส่งอาจารย์มากๆเข้า ก็ รู้สึกว่าทฤษฎีและงานวิจัยด้านการศึกษาก็มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะ ทำให้เราได้แนวคิดอะไรใหม่ๆที่สามารถเอามาปรับใช้ได้ และที่สำคัญ สิ่งที่เราวิจัยและสังเคราะห์ขึ้นมา อาจจะมีประโยชน์กับคนรุ่น หลังๆโดยที่เรานึกไม่ถึง ม่อนรู้สึกชอบและทึ่งใน อิทธิพลของแนวความคิดที่สามารถมีต่อคนในรุ่นหลังๆได้  ม่อนเลยเริ่มรู้สึกอยากมีส่วนร่วมต่องานแบบนี้บ้าง ซึ่งก็ทำให้ม่อนเริ่มมองถึง การทำงานด้านวิชาการ งานวิจัยต่างๆ ซึ่งม่อนก็ยังไม่รู้นะคะว่า ต่อไปม่อนจะไปลงเอยด้วยการทำงานอะไรที่ไหน แต่ตอนนี้ก็รู้ว่าความชอบและ ความต้องการของตัวเองเป็นอย่างนี้

แล้วถามว่า ถ้าอย่างนี้ ถือว่าตอนแรกที่ม่อนตัดสินใจลาออกจากหมอไปเป็นครู ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือเปล่า
ไม่ นะคะ เพราะว่า การเป็นครู  ม่อนก็ชอบ เพียงแต่เมื่อเราได้เรียนรู้ และได้ลองอะไรมากขึ้น ความชอบความสนใจเราก็เริ่มชัดขึ้น ม่อนก็ยังอยู่ในงานด้านการศึกษาอยู่ เพียงแต่รู้ขอบเขตงานที่เรา อยากทำมากขึ้น  ที่ เป็นอย่างนี้ได้ เป็นเพราะตอนนั้นม่อนเลือกจาก ใจ ม่อนเลือกเพราะม่อนรู้ว่างาน การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญกับม่อน เป็นสิ่งที่ม่อนยอมทุ่มเทให้    มันเป็นไปได้ยากค่ะ ที่คนเราจะรู้ว่าเราอยากเป็นอะไรเลยในการตัดสินใจครั้งแรก แต่ถ้าเราเลือกจากหัวใจ มันก็จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกเสมอค่ะ

More To Explore