อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่วุ่นวายไม่ ใช่น้อย ตารางแน่นเอี๊ยดเลย อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เป็นอาทิตย์ปฐมนิเทศ
เริ่มด้วยวันจันทร์ ตอนเช้ามี Dean’s welcome ceremony ก็มีคณบดีและคณาจารย์ที่เป็นผู้บริหารมากล่าวต้อนรับ ที่นี่อาจารย์ผู้ใหญ่(หลายๆคนก็เป็นคนที่ดังมากในวงการ)แต่ละคนน่ารักมาก ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว คุยกับนักเรียนเหมือนเป็นเพื่อน เพราะเขาถือว่าตัวเขาเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากนักเรียนเหมือนกัน คณบดีได้พูดอย่างหนึ่งที่ม่อนประทับใจ ก็คือว่า “It’s absolutely not a mistake that you are here.” เพราะว่าในใจของพวกเรา หลายๆคนก็คิดว่า ตัวเองไม่เก่งขนาดที่จะมาHarvardได้ ตอนคณะกรรมการเลือกเข้ามา เขาคงเลือกผิดมั้ง แต่อาจารย์จะบอกว่า ไม่ใช่หรอก ที่เราได้เข้ามาเรียนที่นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พวกเราทุกคนสมควรที่จะได้มาที่นี่ ที่คำพูดของท่าน ประทับใจม่อน ก็เพราะว่า ก่อนที่เราจะได้มาเป็นนักเรียนที่นี่ เรามักจะคิดว่า นักเรียนHarvardคงจะเก่งและมั่นใจในตัว เองมาก เพราะที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดังระดับโลก แต่พอมาจริงๆก็พบว่า นักเรียนที่นี่ก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ มีกลัว มีไม่เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนคนอื่นๆ และที่อาจารย์พูดก็ตรงใจหลายๆคนเพราะก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้ เหมือนกัน
นอกจากนี้อาจารย์ยังบอกถึงสถิตินัก เรียนที่นี่ ถ้าม่อนจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะมีนักเรียนต่างชาติ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเยอะทีเดียว เทียบกับคณะอื่นๆ อาจารย์ย้ำเลยว่า พวกเราที่นี่ทุกคนไม่ได้มาเรียนจากห้องเรียน หรือจากอาจารย์ดังๆที่นี่อย่างเดียว การเรียนอีกอย่างที่สำคัญก็คือการเรียนจากเพื่อนๆทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย เพราะยังไม่ทันได้เริ่มเรียน ม่อนก็รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก จากการคุยกับเพื่อนๆหรือพี่ๆที่อยู่ที่นี่มาก่อน
วันนี้ เป็นแรกที่ได้รู้ว่า advisor (อาจารย์ที่ปรึกษา) ของม่อนเป็นใคร ตอน เขาแจก orientation packet ชื่อเราติดอยู่ข้างหน้า พร้อมชื่อadvisor ซึ่งก็คือ Kurt Fischer ซึ่ง เป็น Director ของ MBE ม่อนดีใจมากๆเลยนะที่ได้อาจารย์Fischer เป็นadvisor เพราะเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในวง การ MBE และม่อนก็ได้ยินมาจากรุ่นพี่ว่าอาจารย์ใจดีด้วย
Orientationที่นี่มีกิจกรรมเยอะมาก เขาจัดsession ต่างๆ ให้เราได้ไปเลือกเข้าฟัง ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ การหางาน การฝึกเขียน เป็นต้น มีเยอะมากๆ แถมจัดพร้อมกัน เรียกว่า ถึงอยากจะไปเข้าให้ครบทุกอย่าง ก็ไม่สามารถทำได้ ถือ เป็นตัวอย่างที่ดีของ คำพูดที่ว่า “โลกนี้มีอะไรที่เราอยาก ทำเยอะมากจนเราไม่สามารถทำได้หมด สิ่งสำคัญก็คือ เลือกทำในสิ่งที่ตัวเราหลงใหลและสนใจจริงๆ” เห็นไหมว่า ขนาดยังไม่ทันเริ่มเรียนก็ได้แนวคิดดีๆมาแล้ว
ที่Harvard มีประเพณีการ shopping class คือ ก่อนที่นักเรียนจะตัดสินใจเลือกลงวิชาเรียนอะไร ที่คณะจะเปิดให้อาจารย์แต่ละวิชาได้สอนช่วงสั้นๆเพื่อให้นักเรียนคนไหน โปรแกรมไหน หรือแม้แต่ต่างคณะ หรือต่างวิทยาลัยมาเข้าฟังได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกลงวิชาอะไรดี ซึ่งตอนแรกม่อนและเพื่อนหลายๆคนก็เลือกวิชาไว้ในใจแล้ว โดยดูจากคำอธิบายรายวิชา แต่พอไปshopping จริงๆกลับพบว่า ไม่อยากลงวิชานั้นๆ หรือ อยากลงวิชาอื่นซึ่งไม่เคยคิดถึง ม่อนว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองสนใจและเหมาะกับตัวเองจริงๆ เพื่อให้การเรียนมีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่นี่มีบริการนักเรียนต่างชาติดีมาก อาทิตย์นี้มี Writing workshop for international students เป็นการอบรมสามชั่วโมงให้นักเรียนต่างชาติได้เข้าใจถึงสไตล์การเขียนของที่ นี่ ซึ่งม่อนว่าดีมากๆเลย เพราะการเขียนเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เวลาเราเขียนส่งที่นี่ เราอาจจะชินกับการเขียนแบบคลุมเครือ ไม่ฟันธงอะไรลงไปให้ชัดๆ ตามแบบคนไทย คือเขียนให้มันครอบคลุมไว้ก่อน แต่ที่Harvard เขาจะบอกเลยว่าไม่ใช่อย่างนั้น ต้องเขียนข้อสรุปให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยอธิบายทีหลัง ซึ่งแนวการเขียนของประเทศอื่นก็จะต่างออกไป เช่น อย่างลาตินอเมริกา ก็จะเขียนให้ลึกลับน่าติดตาม ไม่บอกอะไรทั้งหมดในคราวเดียว ซึ่งจะมาใช้กับที่นี่ก็ไม่ได้ เป็นการทำให้นักเรียนต่างชาติอย่างเราๆได้รู้สึกถึงความแตกต่างของวัฒนธรรม การเขียนและหัดเขียนให้ตรงกับที่ที่นี่ต้องการ ที่เน้นมากอีกอย่างก็คือ การให้เครดิตกับคนที่เขียนข้อมูลที่เราเอามาใช้ในบทความของเรา ที่นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ถ้าเราเอาความคิดของใครมาใช้ เราต้องให้เครดิตเขาด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ในบางประเทศรวมถึงประเทศไทย ไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเผลอไม่ให้เครดิตใครล่ะก็ อาจจะขั้นโดนไล่ออกจากโรงเรียนได้เลยทีเดียว
ใน อาทิตย์ม่อนได้เจอadvisorสองครั้ง ครั้งแรกท่านนัดadvisee(นักเรียนในที่ปรึกษา)ของท่านทั้งหมด มาพร้อมกัน แล้วนั่งคุยกัน ม่อนประทับใจอาจารย์มากๆ เพราะท่านเป็นกันเองกับพวกเราตลอด ทั้งๆที่ท่านเป็นคนดังมากๆในวงการ พวกเราคุยกันเรื่องความคาดหวังและความฝันที่อยากจะได้จากที่นี่ ม่อนรู้สึกดีมากเลยที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเพื่อนคนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนมีพื้นฐานที่ต่างกันมากๆ บางคนจบกฎหมาย บางคนจบดนตรี จบเลข เป็นครูประถม บางคนก็ทำงานมาเป็นสิบๆปี บางคนเพิ่งจบออกมา ยิ่งตอกย้ำถึงความหลากหลายที่Harvardเน้นย้ำตั้งแต่ตอนรับนัก เรียนเข้ามา จากนั้นอาจารย์ก็นัดนักเรียนแต่ละคนแบบ เดี่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของท่านเพราะท่านเอง ก็ยุ่ง และไม่ใช่ว่าอาจารย์ทุกคนที่นี่จะสละเวลานัดนักเรียนแต่ละคนมาแบบนี้ ตอนนัดเดี่ยวกับอาจารย์ก็เกร็งๆเล็กน้อย แต่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก จริงๆคุยได้นานกว่านี้ ส่วนมากก็คุยเรื่องแผนการในการเรียนปีนี้แล้วก็ปรึกษาเรื่องวิชาเรียน
กว่า จะเลือกวิชาได้ก็ยากเย็นเพราะมีวิชาที่อยากลงเยอะเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็เลือกได้ ลงทะเบียนไปตอนวันศุกร์แล้วก็รอเปิดเทอมอย่างใจจดใจจ่อ