ที่ฮาร์วาร์ด จะมีความพยายามในการทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกๆคนเท่าเทียมกัน คือ จะไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าใครเป็นคนชาติไหนหรือเชื้อชาติไหน หรือถ้ามีก็จะพยายามทำให้น้อยที่สุด ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ฮาร์วาร์ด แต่เป็นในอเมริกา เนื่องจากอเมริกาเป็นชาติที่ประกอบด้วยคนมากมายหลายเชื้อชาติ เมื่อก่อนก็มีเรื่องการแบ่งแยกเชื้อชาติอยู่ค่อนข้างมาก แต่ต่อมาเขาก็มีนโยบายที่ช่วยเหลือคนกลุ่มน้อยเพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการกีดกันทางเชื้อชาติ
ที่Harvard Graduate School of Education จะมีการประชุมวิชาการปีละครั้งที่เน้นเรื่องการส่งเสริมให้วงการการศึกษาสนับสนุนคนหลากหลายเชื้อชาติมากขึ้น ในปีที่ม่อนเรียนอยู่ ม่อนก็ได้เป็นหนึ่งในกรรมการที่ช่วยเขาจัดงานค่ะ งานนี้ชื่อว่า Alumni of Color Conference คำว่า Alumni of Color ก็หมายถึงศิษย์เก่าที่เป็นpeople of color หมายถึง คนที่ไม่ใช่คนขาวน่ะค่ะ จะเป็นคนแอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้ อเมริกากลาง หรือแม้แต่จะเป็นคนสัญชาติอเมริกัน แต่ถ้าเป็นเชื้อชาติอื่นที่ไม่ใช่คนขาว เขาก็ถือเป็น people of color เหมือนกันค่ะ โดยจุดประสงค์ของการจัดงานก็คือ จะเชิญให้ศิษย์เก่าของคณะที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำวิจัยหรือทำงานกับ people of color ให้มาพูดที่คณะค่ะ โดยผู้ฟังก็จะเป็นคนในมหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้คนในวงการการศึกษาออกไปทำงานที่ช่วยเหลือ people of color มากขึ้น
เรื่องนี้ ม่อนจำได้ว่าตอนเรียนที่คณะแพทย์ที่จุฬา ก็เป็นที่ถกเถียงกันเหมือนกันว่า งานวิจัยส่วนมากจะทำในคนขาว ผู้ชาย แล้วเอาผลนั้นมาใช้กับทุกๆคน ซึ่งจริงๆแล้วฝรั่งกับคนเอเชียก็มีอะไรที่แตกต่างกันหลายอย่าง ถ้าทำงานวิจัยเรื่องยาในคนขาว แล้วเอามาใช้กับคนเอเชีย ก็อาจจะมีผลที่ไม่เหมือนกันก็ได้ หรือแม้แต่ งานวิจัยในผู้หญิงกับผู้ชาย ผลก็อาจจะออกมาไม่เหมือนกันแล้ว แต่ส่วนมาก งานวิจัยจะทำในคนกลุ่มเดียวโดยไม่ได้สนใจคนกลุ่มน้อยเท่าไหร่ ในวงการการศึกษาก็มีเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ถึงพยายามทำให้มีงานวิจัยในคนกลุ่มต่างๆมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในคนขาวอย่างเดียว
ช่วงเวลาที่ได้ไปอยู่ในฮาร์วาร์ดและอเมริกา ทำให้เรารู้สึกถึงความหลากหลายของคน ปกติอยู่ในประเทศไทย ทุกคนจะคล้ายๆกันหมด ทำให้เราไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอไปอยู่รวมกับคนหลากหลาย เราต้องระวังการแสดงออกไม่ให้ไปoffendคนอื่นเขา พอเราได้รู้จักคนหลากหลายมากขึ้น เราก็ได้เรียนรู้ว่า คนที่ต่างจากเรา เขาก็มีความคิดอะไรที่ดีๆหลายอย่าง เราได้เห็นวิธีการคิดของเขา ได้รับฟังความเป็นมาของประเทศของสังคมเขา ทำให้เราได้เข้าใจคนที่แตกต่างจากเราได้มากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ได้จากฮาร์วาร์ด ก็คือ ความsensitiveต่อความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งม่อนคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในการทำงานในยุคโลกาภิวัฒน์ค่ะ ยิ่งตอนนี้ได้มาอยู่รวมกับนักเรียนทุนต่างชาติที่ประเทศจีน ยิ่งทำให้ม่อนเห็นประโยชน์ของการอยู่ร่วมกับคนต่างวัฒนธรรมอย่างปรองดองมากขึ้นค่ะ