ปกติเวลาที่เราเรียนภาษาใหม่ เรามักจะพยายามเลียนแบบการเรียนตามธรรมชาติของเด็ก มีนักการศึกษาหลายคนที่คิดว่า ในเมื่อเวลาเด็กเล็กๆเริ่มเรียนภาษา ก็ไม่เห็นจะต้องใช้คำอธิบายแกรมมาสักเท่าไหร่ ก็สามารถพูดได้ถูกต้อง ฉะนั้นถ้าเราเรียนภาษาต่างประเทศก็น่าจะไม่จำเป็นต้องอธิบายแกรมมาให้มากนักก็ได้ เน้นการทำซ้ำๆและการเลียนแบบก็พอ ซึ่งดูๆก็น่าจะสมเหตุสมผล แต่ลองมาคิดดูดีๆซิว่า ถ้าเราเอาวิธีการที่เด็กเรียนภาษาแม่ มาเปรียบเทียบกับวิธีที่เด็กหรือผู้ใหญ่เรียนภาษาที่สองตรงๆ มันจะเป็นการเปรียบเทียบที่สมเหตุสมผลหรือ?
ตอนเป็นเด็กๆ จะยังไม่มีความสามารถในการคิดถึงอนาคตหรือสิ่งที่เป็นนามธรรม ความสามารถพวกนี้จะเริ่มพัฒนาช่วงวัยรุ่น จนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็เห็นได้ว่าความสามารถทางความคิดของเด็กและผู้ใหญ่นั้นไม่เหมือนกัน การที่เอาวิธีที่เด็กเรียนภาษามาเปรียบกับวิธีที่ผู้ใหญ่เรียนตรงๆนั้นก็คงไม่ได้ นักภาษาศาสตร์ เช่น Ausubel เห็นว่า ผู้ใหญ่สามารถได้ประโยชน์จากการอธิบายแกรมมาในการเรียนภาษาต่างประเทศได้ เพราะผู้ใหญ่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แล้ว ในขณะที่คำอธิบายทางแกรมมาแบบเดียวกันนั้นอาจจะมีประโยชน์กับเด็กๆน้อยกว่า เพราะเด็กๆยังไม่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แบบผู้ใหญ่ค่ะ