หลายๆคนที่เคยต้องเขียน essayส่งอาจารย์ คงจะรู้ว่ามันยากแค่ไหนนะคะ โดยเฉพาะถ้าเราต้องหาข้อมูลด้วยเขียนด้วย ตอนครูม่อนเรียนปอโทปอเอกที่อเมริกา ครูม่อนต้องเขียนessayเยอะมากๆ ทำให้รู้ว่าwriting processนั้นเป็นยังไง ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูม่อนไม่เคยได้เรียนที่เมืองไทยเลย (เพราะว่าครูม่อนเรียนโปรแกรมไทยตลอด ไม่เคยเรียนอินเตอร์เลย) วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งประสบการณ์ที่ต้องเขียนessayที่อเมริกาให้ได้อ่านกัน จะได้ไม่ต้องลำบากแบบครูม่อนนะคะ
สิ่งที่สำคัญมากๆในการเขียนคือ prewriting แปลตรงตัวก็คือ การเตรียมตัวก่อนการเขียนนั่นเอง
ทำไมเราต้องเตรียมตัวก่อนเขียน?
เพราะว่าการเตรียมตัวก่อนเขียนช่วยให้เราได้ไอเดียที่เราจะเขียน ทำให้ไอเดียชัดเจนขึ้น และให้โอกาสเราได้organizeไอเดีย
ปกติแล้วเรามักจะเขียนเลย พอได้หัวข้อปุ๊บก็เขียนเลย ไม่ก็หาข้อมูลนิดหน่อยแล้วก็ลงมือเขียน ถ้าเราเขียนเลย เรามักจะสะดุดใช่ไหมคะ เขียนไปบรรทัดนึงแล้วก็ติด ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ
วิธีนึงของ prewriting ก็คือ brainstorm นั่นเอง ซึ่งหลายๆคนคงจะรู้จักอยู่แล้ว กฏนึงที่สำคัญมากๆของการbrainstormคือ ต้องไม่censorความคิดหรือไอเดียเลย ไม่ว่ามันจะดูไม่เกี่ยวขนาดไหนก็ตาม เพราะว่าเวลาเขียน สมองเรามีสองส่วนด้วยกัน คือ writer กับ editor
Writer คือ นักเขียนซึ่งส่วนนี้จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ส่วน editor คือ ผู้เรียบเรียงแก้ไข ซึ่งส่วนนี้ต้องใช้วิเคราะห์ว่าส่วนไหนดีส่วนไหนไม่ดี จะตัดอันไหน แก้อันไหน
แต่สมองส่วนความคิดสร้างสรรค์จะทำงานไม่ได้ถ้าโดนเซนเซอร์ตลอดเวลา ฉะนั้นเวลาbrainstormเราต้องให้โอกาสส่วนความคิดสร้างสรรค์ได้ทำงานเต็มที่ โดยปิดไม่ให้ส่วนeditorมาบงการ
Brainstorm นั้นมีหลายเทคนิคด้วยกัน อาจจะเขียน list, เขียน mindmap หรือวาดdiagram แต่มีอีกวิธีนึงที่ครูม่อนอยากแนะนำ คือ freewriting ค่ะ
Freewriting คือ การเขียนแบบfreestyle เขียนไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนใจว่าเราเขียนอะไร กฏคือ ต้องเขียนไม่หยุด และ ไม่ต้องสนใจว่าถูกแกรรมมาไหม เขียนเป็นประโยคหรือเปล่า วิธีคือ ให้ตั้งเวลาไว้ ห้านาที สิบนาทีแล้วก็เขียนไปเลย ไม่ต้องหยุด พอเขียนเสร็จค่อยมาดูว่าเราเขียนอะไร เอาไอเดียมาใช้ได้ไหม
ยกตัวอย่างใกล้ตัว อย่างวันนี้ตอนเริ่มเขียน ครูม่อนไม่รู้จะเขียนอะไรดี ตันค่ะ คิดไม่ออก ครูม่อนก็ใช้ freewriting
I don’t know what to write. I don’t have any ideas. But I have to write something. What would be beneficial to others? I guess I could write about academic writing, but that’s boring and I don’t want to write about it right now. Don’t feel like it. Maybe the writing process then? But what about specifically? Like what topic exactly. It’s not like I can just write about the whole process. That would be a really long post. Maybe just freewriting?
เห็นไหมค่ะ เขียนไปเรื่อยๆ ก็ได้ไอเดียออกมา บางทีเราต้องเขียนเยอะกว่าจะได้ไอเดียมา บางวันก็ไม่ต้องเขียนเยอะ ถ้าเราไม่รู้จะเขียนอะไรจริงๆ ครูม่อนแนะนำให้เขียนว่า I don’t know. I don’t know. I don’t know. ไปเรื่อยๆ จนกว่าคำอื่นจะออกมา ฟังดูตลกแต่ได้ผลนะคะ
สำหรับใครที่ยังไม่ถนัดคิดเป็นภาษาอังกฤษ ให้ freewrite เป็นภาษาไทยก็ได้นะคะ เพราะในprocess นี้ เราแค่ต้องการideaไม่ได้ต้องการเขียน
ใครที่ต้องเขียนessay ลองใช้freewritingดูนะคะ ได้ผลยังไงมาแชร์ให้ครูม่อนและผู้อ่านคนอื่นได้อ่านบ้างนะคะ
Good luck with your writings!