ทำไมเวลาเราอยากจะเริ่มเปลี่ยนตัวเอง ทำอะไรใหม่ๆ ถึงได้ยากลำบากเหลือเกิน?
เมื่อวันเกิดที่ผ่านมา ครูreflectกับชีวิตตัวเอง แล้วรู้สึกนะว่าพออายุมากขึ้นเนี่ย เวลาจะทำอะไรใหม่ๆมันจะยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
อยากจะตื่นเช้าขึ้น
อ่านหนังสือดีๆ
หาเวลานั่งสวดมนตร์
ดื่มน้ำมากขึ้น
ทั้งๆที่ครูก็เข้าใจการทำงานของสมองว่าเวลาจะหัดทำอะไรใหม่ๆให้เป็นนิสัยนั้น ต้องใช้เวลาและทำสม่ำเสมอ ยิ่งตอนแรกๆยิ่งทำยาก
แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆเราก็ได้เร็ว เราอยากได้เดี๋ยวนั้น instant gratification เป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตเราจริงๆ
เลยติดเป็นนิสัยว่าถ้าอยากได้อะไรแล้วไม่ได้เลย แปลว่าเราทำไม่ได้
มีกี่ครั้งที่เราตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ทำได้แค่ 2-3 วันแล้วเลิก?
เพราะคิดว่าเราทำไม่ได้
เพราะคิดว่าเราทำไม่ถูกวิธี
เพราะคิดว่ามันยากไป ใช้เวลานานไป
ทั้งๆที่ถ้าเรามาคิดจริงๆนะ ถ้าเราทำแบบเดียวกันกับการทดลองวิทยาศาสตร์หรืองานวิจัย เราคงว่าว่าบ้าไปแล้ว
มีข้อมูลแค่ครั้งสองครั้ง จะเอามาสรุปผลแล้วเหรอ?
แต่เราก็ทำกันในชีวิตเราเอง
เร็วๆนี้ครูพยายามจะนอนให้มีคุณภาพมากขึ้น เลยจะลองว่าถ้าทำ relaxation techniques จาก Calm app แล้วจะช่วยหรือไม่
ก็ลองไปอาทิตย์นึงนะ ก็บางวันก็ได้ผล บางวันก็ไม่ได้ผล
แล้วไงต่อ? ก็เลิกไป เพราะรู้สึกว่ามันไม่ work
ก็ไปลองหาข้อมูล หาวิธีใหม่
แต่พอมานั่งคิดจริงๆก็ เออ เราเองก็บ้าเนาะ ลองแค่อาทิตย์เดียวจะรู้ได้ไงว่ามันได้ผลหรือเปล่า?
ตอนทำวิจัยนี่ มีข้อมูล 40-50 จุด ยังไม่พอเลย
อันนี้แค่ 7 ครั้งเอง เราสรุปผลล่ะ
ตอนนี้เลยพยายามเตือนตัวเองว่า จะลองอะไรก็ต้องให้เวลาตัวเองด้วย ก่อนจะสรุปผล
การเรียนภาษา การฝึกเขียน ก็เหมือนกัน
เราลองทำมากี่ครั้งแล้ว? ลองมาเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว?
ก่อนจะเลิก เราน่าจะถามตัวเองก่อนว่า
เราลองทำมากี่ครั้งแล้ว? ลองมาเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว?
มัน realistic หรือไม่ที่จะคาดหวังให้ตัวเองเก่งเรื่อง____ ภายใน___ครั้ง? ภายใน ____ วัน/เดือน/ปี?
มันง่ายเหลือเกินที่จะโทษตัวเองเวลาที่เราล้มเหลว
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เราอาจจะยังไม่ได้ใช้เวลาหัดนานพอ
ให้เวลาตัวเอง ให้โอกาสตัวเอง เห็นใจตัวเองบ้าง
เรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันอาจจะใช้เวลานานกว่าที่เราหวัง แต่ถ้าเราไม่ก้าวต่อไป เราก็ไม่มีวันจะทำได้
ทำได้ช้าดีกว่าไม่ได้ทำไปตลอดชีวิต จริงไหมคะ?