fbpx

Grammar ไม่เป๊ะ จะเก่ง writing ได้ไหม?

จะเก่ง writing ต้องรู้grammar เป๊ะทุกอย่าง และได้ศัพท์หรูๆ จริงไหม?

Share This Post

Share on email
Share on facebook
Share on twitter

ความเชื่ออันหนึ่งที่คนเรียนภาษาอังกฤษอย่างเรามีกัน คือ 

 

จะเก่ง writing ต้องรู้grammar เป๊ะทุกอย่าง และได้ศัพท์หรูๆ จริงไหม?

 

ซึ่งไม่จริงเลยค่ะ

จากประสบการณ์ที่เป็นนักเรียนเอง และที่สอนทั้งนักเรียนไทยและต่างชาติ  ครูรู้ว่ามีหลัก grammar อยู่บางอันที่เป็น core เท่านั้นที่เราต้องรู้ให้ขึ้นใจ ซึ่งมันไม่เยอะเลย

ที่เหลือ เราใช้ tools ช่วยได้หมด

 

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีข้อยกเว้นเยอะ เพราะว่ามันเป็นภาษาที่ผสมกับภาษาอื่นๆ 

เพราะฉะนั้นถ้าเรามัวแต่กังวลเรื่องข้อยกเว้นยิบย่อยต่างๆ ก็เรียนกันไม่จบสิ้นค่ะ ไม่ทันใช้กันพอดี

 

ครูขอยกตัวอย่าง เรื่อง determiners คือ คำที่ให้นำหน้านาม ซึ่งรวมถึง articles a, an, the ด้วย

 

เราเรียนเรื่องนี้มากันเยอะตั้งแต่เด็กๆใช่ไหมคะ แต่ก็ยังใช้กันไม่ค่อยเป็น จำได้ไหมว่ามันมีข้อยกเว้นเยอะมาก ถ้าเป็นประเทศต้องใช้แบบนี้นะ บางประเทศไม่ต้องใช้ the แต่บางประเทศต้องมี the  ถ้าเป็นองค์กรต้องใช้แบบนี้  เยอะแยะจำกันไม่หมด

 

ครูสรุปได้สองข้อที่ต้องรู้ขึ้นใจ

หนึ่ง คือ a, an ใช้ในกรณีที่เรายังไม่เคยพูดถึงนามนั้นมาก่อน คือ ไม่เฉพาะเจาะจง     ส่วน the ใช้กับอันที่พูดถึงมาแล้ว หรือเป็นอันที่เฉพาะเจาะจง

สอง คือ singular noun ต้องมี determiner นำหน้าเสมอ จะเป็น my, his, one, two อะไรก็ได้ ขอให้มีล่ะกัน 

(อ่านเพิ่มเรื่อง articles ที่ ได้เพียง 5 ข้อนี้ ก็ใช้ Articles ได้เป๊ะ )

 

ส่วนที่นอกเหนือจากนั้นทำยังไง?

เปิดหาเอาค่ะ  ใช้ Dictionary, thesaurus, collocation dictionary, online corpus, grammar reference books และอื่นๆ  [ประโยชน์และวิธีการใช้ collocations dictionary]

 

ทักษะที่สำคัญกว่าการจำgrammarให้ได้ทุกอย่าง คือ ฝึกวิธีใช้ tools เหล่านี้ให้เป็น  ให้รู้ขึ้นใจเฉพาะ core grammar เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าต้องค้นหาเรื่องไหน

 

เรื่องvocabก็เหมือนกัน เรารู้แค่คำหลักๆ general academic vocab ที่ใช้เยอะๆ และคำtechnical ในสาขาเรา  ที่เหลือหัดใช้ tools ให้เป็นแล้วเปิดเอาค่ะ 

 

แน่นอนว่าเป้าหมายระยะยาวของเราคือ เรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเปิดบ่อยๆ แต่อันนั้นเป็นเป้าหมายระยะยาว ต้องค่อยๆสั่งสมไป 

 

แต่สำหรับตอนนี้ เราก็เขียนได้  ไม่ต้องรอให้เก่งทุกอย่างโดยใช้ tools มาช่วย

 

ประโยชน์อีกอย่างของ just-in-time learning (เรียนตอนที่จะใช้) ก็คือ เราจะจำได้แม่นขึ้น เคยไหมคะเวลาทำแบบฝึกหัดในห้องอ่ะทำได้ แต่พอจะใช้จริงๆกลับลืม 

แต่ถ้าเราเรียนตอนที่เราต้องเขียนจริงๆ จะจำได้แม่น  ยิ่งผิดแล้วโดนแก้มานี่จำติดตรึงตลอดชีวิตเลย ;P

More To Explore