“เคยท่องศัพท์แล้วก็ลืม เสียเวลาแล้วไม่ได้อะไร เลิกท่องดีกว่า”
อันนี้ได้ยินหลายคนบ่นมาก เมื่อคิดแบบนี้ก็ทำให้หมดกำลังใจ
ครูเองก็เคยรู้สึกแบบนี้ เป็นมากตอนที่ท่องศัพท์สอบ GRE ท้ายๆเริ่มหมดกำลังใจ เลิกท่องไปเลย กะว่าก็ใช้ที่เราเคยอ่านๆมาแล้วไปเดาเอา
พอได้ไปเรียนปริญญาโทและเอกด้านการเรียนภาษา ถึงได้รู้ว่าการเรียนคำศัพท์นั้นไม่ใช่ all-or-nothing คือ ไม่ใช่มีแค่ “จำได้” กับ “ลืม”
การเรียนคำศัพท์มีสี่ระดับด้วยกัน ตามที่นักวิจัยการศึกษา Edgar Dale เสนอไว้
- ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นคำนี้
- เคยเห็นหรือได้ยินคำนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร
- เห็นแล้วรู้จัก (recognize) และรู้ความหมาย ถ้าอ่านเจอจะเข้าใจ แต่ยังไม่ชัวร์ขนาดกล้าใช้พูดหรือเขียนเอง
- รู้จักคำนี้ดี และสามารถใช้ในการพูดและเขียนได้
เวลาที่เราเจอคำใหม่ครั้งแรก เราก็ยังอยู่ในระดับแรกอยู่ เปิดดิกหาความหมาย ถ้าขยันหน่อยก็จดความหมายกับตัวอย่างใช่ไหมคะ เราก็มักจะคิดว่าอย่างนี้คือท่องแล้วแหละ แต่อีกไม่กี่วัน เราก็ลืมไปซะแล้ว
พอมาอ่านเจออีกที “เฮ้ย คำนี้คุ้นๆอ่ะ” แต่ไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร แล้วเราก็มาโทษตัวเองว่าความจำเราไม่ได้ เราไม่เก่งอังกฤษ เลยเลิกเรียนเลิกฝึกไปเลย
แต่จริงๆแล้วเรากำลังก้าวหน้านะ อยู่ในระดับ 2 ไง
อันนี้เป็นปกตินะคะ งานวิจัยด้านการเรียน vocabulary พบว่าต้องเจอคำศัพท์ประมาณ 12 ครั้งถึงจะพออ่านเข้าใจ และต้องเจอใน context ที่แตกต่างกันด้วย เช่น ใน dictionary ใน passage จากต่างเรื่องราว เป็นต้น ว่าง่ายๆคือ multiple exposures และ multiple contexts
เพราะฉะนั้นถึงแม้เราจะยังอยู่ในช่วง“เฮ้ย คำนี้คุ้นๆอ่ะ” แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ก้าวหน้านะคะ
Note: การแบ่งเป็นขั้นในที่นี้เพื่อให้เราเข้าใจ vocabulary develpment แต่จริงๆแล้วการพัฒนาคำศัพท์เป็นสิ่งที่ค่อยเป็นค่อยไป (incremental) นะคะ
สรุปคือ เวลาที่เจอคำศัพท์แล้วจำไม่ได้หรือใช้ผิด เราอาจจะคิดว่าเราไม่ก้าวหน้า แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องปกติของ vocabulary development ค่ะ
ลองนึกถึงศัพท์หนึ่งคำที่เราเพิ่งเจอเร็วๆนี้แล้วรู้สึกว่า “ทำไมจำไม่ได้สักที” ลองคิดดูลึกๆว่าจริงๆแล้วเราอยู่ในขั้นตอนไหน 1-4 ครูเชื่อว่าเราจะเห็นว่า “จริงๆเราก็เก่งขึ้นนะ”