สมัครยังไงให้ติด Top U? คอร์สสอนเขียน Statement of Purpose
สมัครยังไงให้ติด Top U? เปิดแล้ว! คอร์สเขียน statement of purpose กับ ครูม่อน (ศิษย์เก่าฮาร์วาร์ดและUCLA) สมัครภายใน 13 ก.ย. รับโบนัส private coaching ฟรี 1 ครั้ง คลิกอ่านรายละเอียดเลยค่ะ
ความเชื่อผิดๆ 4 อย่างเกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยดังๆ
ความเชื่อผิดๆ 4 อย่างเกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยดังๆและ Ivy league 1. เกรดต้องดี ถึงจะเข้าได้ – การจะเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้ ไม่ใช่ว่าเกรดดีอย่างเดียวถึงจะพอ จริงอยู่ ถ้าเกรดเราดีเลิศ มันก็ทำให้โอกาสที่เราจะเข้าได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเกรดดีอย่างเดียว แล้วจะเข้าได้นะ มันก็ต้องมีผลงานอย่างอื่นด้วย ในทางกลับกัน นักเรียนที่มีเกรดกลางๆหรือดีกว่าเฉลี่ยนิดหน่อย ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาส จริงๆแล้วถ้านักเรียนมีผลงาน มีประสบการณ์ หรือแม้แต่มีวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจและตรงกับโปรแกรม โอกาสที่จะเข้าได้ก็มีเหมือนกัน 2.
เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก – Undergraduate VS Graduate
Undergraduate VS Graduate ต่อจากตอน faculty VS department แล้ว คิดว่าต้องอธิบายสักหน่อยว่าการเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกามันเป็นยังไง ถ้าเป็นการเรียนในระดับปริญญาตรี เขาจะเรียกว่า college แล้วก็แยกย่อยเป็น major สาขาอะไร แต่มักจะไม่มีการแยกเป็นคณะชัดเจนเหมือนอย่างบ้านเราที่ต้องเลือกก่อนเข้าเรียน (แถมยังเปลี่ยนไม่ได้อีก) ซึ่ง college ก็จะใช้เวลาเรียนสี่ปีค่ะ บางทีเราก็จะเรียกว่า undergraduate education ซึ่งก็คือหมายถึงการศึกษาระดับปริญญาตรีนั่นเอง ถ้าจะหมายถึงนักศึกษาปริญญาตรีก็จะใช้ว่า
เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก – Feedback
จะเลือกวิชาไหน ดูfeedbackจากนักเรียนรุ่นก่อนๆได้ เนื่องจากว่าที่นี่ค่าเรียนค่อนข้างแพง แต่ละคนเลยเลือกกันน่าดูว่าจะเรียนวิชาไหน (กลัวไม่คุ้ม) ดีที่เราสามารถเข้าไปดู feedback ของนักเรียนที่เคยเรียนวิชานี้มาก่อน feed คือ ให้(กิน) backคือกลับ รวมกันก็คือ การป้อนกลับเข้าไป ในกรณีก็คือให้นักเรียนเขียนความคิดเห็นที่มีต่อวิชานั้นๆและอาจารย์คนนั้นๆ นั่นเอง Feedbackที่ให้นักเรียนเขียนของที่นี่ละเอียดมากๆ ถามทุกอย่าง ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้เราได้รู้ก่อนว่าอาจารย์คนนี้ดุไหม งานเยอะไหม สอนรู้เรื่องไหม ช่วยในการตัดสินใจได้ดีมากๆเลย ในทางกลับกัน มันก็มีผลทำให้อาจารย์ต้องคอยปรับปรุงตัวเองด้วยเหมือนกันนะ
อยากเรียนต่อเมืองนอก เริ่มด้วยการเตรียมสอบ(ดีไหม?)-ตอนที่ 2
TOEFL แค่บอกอะไรบางอย่าง ปกติพวกเราจะเตรียมสอบTOEFLกันเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะเป็นด่านสำคัญที่เราจะต้องผ่านไปให้ได้ แต่ต้องอย่าลืมนะคะว่า คะแนนTOEFLแค่เป็นตัวบอกว่า เราน่าจะสามารถเรียนด้วยภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่ได้บอกว่าเราดีกว่าคนที่เป็นเจ้าของภาษาตรงไหน คือถ้าเป็นเจ้าของภาษา เขาจะไม่ต้องสอบTOEFL ฉะนั้น อย่าคิดว่า การที่ได้คะแนนTOEFLเยอะจะทำให้เราได้เปรียบกว่าเจ้าของภาษา มันแค่ทำให้เราได้เปรียบกว่านักเรียนต่างชาติด้วยกันเท่านั้น ฉะนั้นเราต้องมีจุดอื่นที่พอมหาวิทยาลัยเอาเราไปเปรียบเทียบกับเจ้าของภาษาแล้ว เรามีดีหรือมีสิ่งที่แตกต่างกว่าเขา ตอนครูม่อนสมัครเรียนฮาร์วาร์ด จำได้ว่าปกติแล้วคะแนนTOEFL iBT เต็ม 120 ต้องได้อย่างน้อย 100กว่าๆ ถ้าจะให้ชัวร์ก็ต้อง110 ขึ้นไป
เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก- Faculty VS department
การมาเรียนปริญญาโทที่ฮาร์วาร์ดคือการมาเรียนอเมริกาครั้งแรกของตัวเอง มีคำหนึ่งที่ทำเราสับสนอยู่พักใหญ่ก็คือ faculty นี่แหละ ที่บ้านเรา facultyคือคณะใช่ไหมคะ เช่น faculty of medicine ก็คือ คณะแพทยศาสตร์ faculty of education ก็คือคณะครุศาสตร์ แต่ว่าที่อเมริกานี่ คำว่าfacultyเขาจะใช้หมายถึงอาจารย์ผู้สอนค่ะ ไม่ค่อยเจอที่เอามาใช้ว่าคณะเท่าไหร่ จากที่เปิดดิกดูเราจะรู้ว่ามันถูกทั้งสองแบบ คือใช้ได้ทั้งสองอย่าง ครูม่อนก็เดาเอาว่ามันคงจะเป็นวัฒนธรรมทางภาษาของแต่ละที่มากกว่า ถ้าเป็นที่อเมริกา ส่วนมากเวลาจะพูดถึงคณะ เขาจะใช้ว่า