“อ่านเยอะๆก็เก่งคำศัพท์เอง” “Vocab ไม่ท่องไม่ได้” หลายๆคนคงจะเคยได้ยินคำแนะนำในการเรียนคำศัพท์แบบนี้ แล้วอาจจะสับสนว่าวิธีไหนดีกว่ากัน วันนี้ครูจะขออธิบายให้หายสงสัย เพื่อจะได้ไปปรับวิธีการเรียนคำศัพท์ให้ดียิ่งขึ้น การเรียนคำศัพท์มีสองแบบ คือ Incidental
“เคยท่องศัพท์แล้วก็ลืม เสียเวลาแล้วไม่ได้อะไร เลิกท่องดีกว่า” อันนี้ได้ยินหลายคนบ่นมาก เมื่อคิดแบบนี้ก็ทำให้หมดกำลังใจ ครูเองก็เคยรู้สึกแบบนี้ เป็นมากตอนที่ท่องศัพท์สอบ GRE ท้ายๆเริ่มหมดกำลังใจ เลิกท่องไปเลย
ใครบ้างที่คิดว่าอ่านเยอะๆแล้วทำให้ภาษาดีขึ้น ทำให้เขียนได้เก่งขึ้น? ครูม่อนคิดว่าทุกๆคนก็คงรู้ และเชื่อแบบนี้ ซึ่งมันก็จริงค่ะ ไม่ว่าจะเรียนภาษาอะไร การใช้ภาษานั้นทำให้ภาษาดีขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องการเขียนนั้น แน่นอนว่าอย่างน้อยก็ต้องอ่านเป็นบ้าง ถึงจะเขียนดีขึ้น วันนี้ครูจะพูดถึงสองเรื่องด้วยกัน
Phrasal Verb คืออะไร วลีที่มี verb + คำชนิดอื่น (อาจจะเป็นadverb หรือ preposition)
ในการเขียนเชิงวิชาการ (academic writing) เราใช้การย่อ (abbreviation) อย่างไร? Abbreviation คือ การย่อให้คำหรือวลี(phrase)สั้นลง ยกตัวอย่างเช่น
จากวันก่อนที่โพสต์เรื่อง 4 วิธีง่ายๆสร้างนิสัยเรียนภาษาอังกฤษ (คลิกเพื่ออ่าน) วันนี้จะมาคุยกันต่อนะคะ และจะแจกhabit trackerด้วย วิธีนึงในการรักษาแรงจูงใจในการเรียนภาษา คือ ฉลองชัยชนะเล็กๆ
เวลาเขียนรายงานเรามักจะต้องสรุปผลว่าการทดลองนั้นมีผลมากน้อยแค่ไหน มาดูกันว่าเราใช้ adjective อะไรได้บ้าง n. effect ผลลัพธ์ significant considerable substantial