ยินดีต้อนรับเข้าสู่ KruMon English Academy ค่ะ
มาเรียนรู้และเก่งขึ้นไปด้วยกันนะคะ
เราขอแนะนำความรู้ใน blog ของเราที่เรามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้รักใฝ่หาความรู้อย่างคุณแน่นอนค่ะ
Academic Writing

การเขียน Academic Writing เร็วและดี ด้วย Templates
การเขียน Academic Writing ด้วย templates นั้นทำให้เราเขียนทางวิชาการได้เร็วและดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ Writing templates คืออะไร? ครูมองว่า template คล้ายๆสูตรเลข คือ เป็นสูตรแล้วให้เราใส่คำของเราเข้าไป ให้ดูตัวอย่างจะเข้าใจง่ายที่สุดค่ะ By focusing on _____, X overlooks the deeper problem of

Unclear Pronoun Reference
VDO lesson วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง unclear pronoun reference คือ เกี่ยวกับเวลาที่เราใช้ pronoun เพื่อแทนคำนาม แต่ไม่ชัดว่าใช้แทนคำนามตัวไหนกันแน่ เรื่องนี้แก้กันง่ายๆ ลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ ตัวอย่าง 1 “My grandparents ordered pancakes because they weren’t very hungry.” อันนี้

Parallel Structure คืออะไร ?
Parallelism คือ การใช้คำ วลี หรือประโยคที่มี grammatical form เหมือนกัน เช่น ถ้าใช้คำนามก็ใช้คำนามคู่กัน ถ้าเป็นวลีก็ใช้วลีคู่กัน มาดูตัวอย่างกันค่ะ “John prefers exercising and to paint.” (ไม่parallel เพราะว่าเป็น gerund -ing กับ to V1)

Error in Subject-Verb Agreement
วันนี้มาดูกันเรื่อง ‘subject-verb agreement’ กัน ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆนะคะ ปกติในเวลาที่ ‘subject’ เป็น ‘singular’ เราก็จะเติม s ที่ verb แต่เวลาที่เราเขียนประโยคยาวๆ บางทีเราจะมองไม่เห็นหรือลืมไปว่า ประธานจริงๆคืออะไรกันแน่ เรามาดูตัวอย่างและฝึกฝนกันค่ะ Example 1 Improved sonar technology, together with less

Reducing wordiness: เขียนให้กระชับ (concise) ด้วยการลดคำที่ไม่จำเป็น
Reducing wordiness: เขียนให้กระชับ(concise)ด้วยการลดคำที่ไม่จำเป็น Author: Dr Natpat Chanjavanakul Written: 26 November 2019 Published: 6 December 2019 ***** เราเรียกประโยคที่ใช้คำฟุ่มเฟือยว่า wordy ซึ่งการตัดคำที่ไม่จำเป็นทิ้งไปนั่นถือเป็นวิธีการแก้ writing ที่ง่ายๆวิธีหนึ่งเลย การ reduce wordiness นั้นมีสองกลุ่มใหญ่ๆ
วิธีอ่านและวิเคราะห์รายงาน Understand and analyze research reports
Author: Dr Natpat Chanjavanakul Date: 19 November 2019 การอ่าน report และเอามาเขียนตอบเวลาทำข้อสอบหรือเขียนธีสิสเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ วิดีโอนี้ครูจะลองยกตัวอย่าง อธิบายว่าควรอ่านอย่างไรให้เข้าใจลึกซึ้งและเอาไปใช้ได้ ใครที่ต้องอ่าน report หรือ paper ยาวๆ วิดีโอนี้น่าจะเป็นประโยชน์มากค่ะ สำหรับคราวนี้ครูลองใช้รายงาน English First – English Proficiency
ศึกษาต่อต่างประเทศ

แจกฟรี eBook “เคล็ดลับสู่การเป็นนักเรียนฮาร์วาร์ด:คำแนะนำในการสมัครศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก”
แจกฟรี eBook “เคล็ดลับสู่การเป็นนักเรียนฮาร์วาร์ด:คำแนะนำในการสมัครศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก” โดย ครูม่อน ตอบปัญหาที่หลายๆคนสงสัยว่าถ้าอยากไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เราจะต้องเริ่มต้นอย่างไรบ้าง ตัวเองจะมีโอกาสไหม จะเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองอย่างไร เป็นต้น คลิก Free ebook เคล็ดลับสู่การเป็นนักเรียนฮาร์วาร์ด กรอกอีเมล์ เข้าไปคลิกยืนยันในอีเมล์ที่ได้รับ หลังจากนั้นจะได้อีเมล์แจ้งวิธีการdownloadหนังสือค่ะ

เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก – Undergraduate VS Graduate
Undergraduate VS Graduate ต่อจากตอน faculty VS department แล้ว คิดว่าต้องอธิบายสักหน่อยว่าการเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกามันเป็นยังไง ถ้าเป็นการเรียนในระดับปริญญาตรี เขาจะเรียกว่า college แล้วก็แยกย่อยเป็น major สาขาอะไร แต่มักจะไม่มีการแยกเป็นคณะชัดเจนเหมือนอย่างบ้านเราที่ต้องเลือกก่อนเข้าเรียน (แถมยังเปลี่ยนไม่ได้อีก) ซึ่ง college ก็จะใช้เวลาเรียนสี่ปีค่ะ บางทีเราก็จะเรียกว่า undergraduate education ซึ่งก็คือหมายถึงการศึกษาระดับปริญญาตรีนั่นเอง ถ้าจะหมายถึงนักศึกษาปริญญาตรีก็จะใช้ว่า

เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก – Feedback
จะเลือกวิชาไหน ดูfeedbackจากนักเรียนรุ่นก่อนๆได้ เนื่องจากว่าที่นี่ค่าเรียนค่อนข้างแพง แต่ละคนเลยเลือกกันน่าดูว่าจะเรียนวิชาไหน (กลัวไม่คุ้ม) ดีที่เราสามารถเข้าไปดู feedback ของนักเรียนที่เคยเรียนวิชานี้มาก่อน feed คือ ให้(กิน) backคือกลับ รวมกันก็คือ การป้อนกลับเข้าไป ในกรณีก็คือให้นักเรียนเขียนความคิดเห็นที่มีต่อวิชานั้นๆและอาจารย์คนนั้นๆ นั่นเอง Feedbackที่ให้นักเรียนเขียนของที่นี่ละเอียดมากๆ ถามทุกอย่าง ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้เราได้รู้ก่อนว่าอาจารย์คนนี้ดุไหม งานเยอะไหม สอนรู้เรื่องไหม ช่วยในการตัดสินใจได้ดีมากๆเลย ในทางกลับกัน มันก็มีผลทำให้อาจารย์ต้องคอยปรับปรุงตัวเองด้วยเหมือนกันนะ

เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก- Faculty VS department
การมาเรียนปริญญาโทที่ฮาร์วาร์ดคือการมาเรียนอเมริกาครั้งแรกของตัวเอง มีคำหนึ่งที่ทำเราสับสนอยู่พักใหญ่ก็คือ faculty นี่แหละ ที่บ้านเรา facultyคือคณะใช่ไหมคะ เช่น faculty of medicine ก็คือ คณะแพทยศาสตร์ faculty of education ก็คือคณะครุศาสตร์ แต่ว่าที่อเมริกานี่ คำว่าfacultyเขาจะใช้หมายถึงอาจารย์ผู้สอนค่ะ ไม่ค่อยเจอที่เอามาใช้ว่าคณะเท่าไหร่ จากที่เปิดดิกดูเราจะรู้ว่ามันถูกทั้งสองแบบ คือใช้ได้ทั้งสองอย่าง ครูม่อนก็เดาเอาว่ามันคงจะเป็นวัฒนธรรมทางภาษาของแต่ละที่มากกว่า ถ้าเป็นที่อเมริกา ส่วนมากเวลาจะพูดถึงคณะ เขาจะใช้ว่า

เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก -จะเรียนวิชาไหน shoppingได้ตามใจชอบ
มีเวลาอยู่ประมาณอาทิตย์นึงในการเลือกวิชาเรียน แต่ละโปรแกรมก็มีตัวบังคับไม่เหมือนกัน แต่เราก็มีโอกาสได้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน ที่นี่น่าสนใจมากคือว่าก่อนจะลงเรียนวิชาไหน เขาจะมี shopping period ให้ก่อน คือมีเวลาประมาณสองถึงสามวัน จะมีคลาสแรกของทุกๆวิชา ใครอยากจะไปนั่งวิชาไหนก็ได้ เพื่อจะได้ลองดูว่าวิชาที่จะลงนี่มันตรงกับที่ตัวเองอยากเรียนหรือเปล่า และยังสามารถไป shopping ที่คณะอื่นได้ด้วย แม้้แต่จะไป MIT ก็ยังได้ วันที่shopping อาจารย์แต่ละวิชามักจะมี syllabus ของวิชานั้นๆแจกให้ ซึ่งในนั้นจะบอกว่า จะเรียนเรื่องอะไรบ้าง ต้องอ่านอะไร

อยากเรียนต่อเมืองนอก เริ่มด้วยการเตรียมสอบ(ดีไหม?)- ตอนที่ 1
พอเริ่มรู้ตัวว่าต้องสมัครเรียนต่อเมืองนอก ก็รู้สึกกังวลไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ใครที่คิดว่าตัวเองไม่พร้อม ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกค่ะ แทบจะทุกคนจะรู้สึกแบบนี้ทั้งนั้น เพราะสิ่งที่ต้องทำมันมีเยอะมากๆ จนบางทีเราคิดไม่ออกเลยว่าเราจะทำทุกอย่างให้เสร็จได้ยังไง เท่าที่เคยเจอ ส่วนมากเวลาที่ใครคิดว่าอาจจะไปเรียนต่อเมืองนอก ก็มักจะเริ่มด้วยการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เรียนเตรียมสอบต่างๆ แล้วแต่ว่าจะไปเรียนสาขาอะไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำในเวลาที่เรายังมีเวลาเผื่ออีกปีสองปีก่อนจะสมัครจริงๆ เพราะว่าตอนใกล้ๆแล้วค่อยมาเตรียมสอบเนี่ย มันตื่นเต้นและน่ากลัวมากๆเลย คือถ้าใครรู้ตัวล่วงหน้าแล้ว จะใช้เวลาสักปีสองปีในการฟิตภาษาอังกฤษเผื่อไว้ก็ดีนะคะ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไม่ไปเรียน แต่ยังไงก็ได้ภาษาอังกฤษมา ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว แต่พูดกันตรงๆนะคะ คือว่า เวลาที่เราเรียนภาษาหรือเรียนเตรียมสอบ แบบเผื่อๆไว้เนี่ย

เรียนคำศัพท์จากประสบการณ์เรียนนอก-กลับมาเป็นเด็กหออีกแล้ว
กลับมาเป็นเด็กหออีกแล้ว ชีวิตเป็นเด็กหอมาตลอดตั้งแต่อยู่จุฬาแล้ว ก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามาเรียนปริญญาโทแล้วก็ยังจะอยู่หออีก แต่ก็เลือกเองอ่ะนะ ไม่ได้มีใครบังคับ แล้วจะบ่นทำไม … เนื่องจากว่าที่หอนี้มีเตียงให้ แต่ไม่มีผ้าปูที่นอนให้ เราเลยต้องไปซื้อเอง ในชีวิตไม่เคยจำได้ว่าไปซื้อผ้าปูที่่นอนเมืองนอกเองนะ เลยไม่รู้ว่ามันมีขนาดอะไรบ้าง รู้แต่ว่ามันมีเตียงเดี่ยวกับเตียงคู่ แต่เอาเข้าจริงมันมีมากกว่านั้นเยอะ คือที่หอ เขาจะเขียนรายละเอียดไว้ว่าเตียงเราเป็นเตียงขนาด twin เราก็เข้าใจนะว่า twin แปลว่าแฝด ไอ้เราก็นึกว่ามันน่าจะใหญ่ เพราะแฝดอยู่กันได้สองคน แต่ไหงพอเห็นจริงๆ ทำไมมันเล็กจังอ่ะ แล้วถ้ามันเล็กขนาดนี้
เทคนิคการเรียน

หนังสือ แนะนำสำหรับผู้เขียนธีสิสและวิทยานิพนธ์
👉 ดาวน์โหลด eBook หนังสือเด็ดสำหรับเขียนธีสิสและวิทยานิพนธ์ หากใครที่กำลังมองหา หนังสือ ดีๆ สำหรับเป็น Guide ในการเขียนธีสิสหรือทำวิทยานิพนธ์อยู่หล่ะก็ บทความนี้เหมาะมากๆ เลยค่ะ รวมไปถึงคนที่กำลังฝึกเขียน Academic Writing ก็สามารถอ่านหนังสือพวกนี้ได้นะคะ เอาไว้เป็นแนวหลักในการคิด การเขียน ครูได้รวบรวมหนังสือเด็ดๆ เอาไว้ 6 เล่ม ให้ได้เอาไปลองอ่านกันนะคะ ไปอ่านกันเลย Writing

วิธีเพิ่มความมั่นใจ เขียนภาษาอังกฤษ (English Writing)
Writing with Confidence ทำอย่างไรให้กล้า เขียนภาษาอังกฤษ สาเหตุที่หลายๆคนกลัว การเขียนหรือ Writing ก็คือ “กลัว” การเขียนผิด มีใครบ้างที่เวลาเขียน มีเสียงในหัวว่า “เขียนผิดอีกแล้ว ไม่ได้เรื่องเลย” “ประโยคนี้ถูกแกรมม่าไหม” “เขียนตั้งนานได้ไม่กี่บรรทัดเอง แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ” พอมีเสียงในหัวแบบนี้ แล้วทำให้เขียนตะกุกตะกัก เขียนแล้วแก้ เขียนแล้วลบ เขียนแล้วไม่รู้ต้องแก้ตรงไหน เป็นชั่วโมงไม่ถึงไหนสักที เป็นอย่างนี้บ่อยๆเข้าก็หมดความมั่นใจ

เขียนคําศัพท์ ภาษาอังกฤษ แบบไม่ต้องท่อง
วิธีเลือกคำให้ถูกต้องตรงใจแบบไม่ต้องท่อง
เลือกคำมาใช้ให้เหมือนเจ้าของภาษาได้โดยไม่ต้องท่องคำศัพท์ แค่รู้เทคนิคง่ายๆ 3 ข้อ
เทคนิคที่ 1. เลือกดิกชันนารีได้ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง!
เทคนิคที่ 2. เข้าใจรายละเอียดของคำ (อย่าจำแต่คำแปล)
เทคนิคที่ 3. ใช้ Thesaurus ให้คล่อง

เรียนภาษาอังกฤษ


ความสัมพันธ์ระหว่าง Paragraph และ Essay
ความสัมพันธ์ระหว่าง Paragraph และ Essay สิ่งที่ต้องรู้เวลาเขียน Academic Essay Thesis คือ สิ่งที่เราต้องการจะพูดถึง หรือความหมายที่เราต้องการสื่อ Thesis Statement คือ ประโยคที่อธิบายถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อ Topic Sentence คือ ประโยคที่บอกว่าใน paragraph มี main idea อะไร ซึ่งใน

เขียนแล้วไม่รู้ต้องแก้ตรงไหน
ความสำคัญของการขอ feedback เวลาฝึก writing สิ่งสำคัญเวลาฝึก writing ให้เก่งคือการได้ feedback จากผู้เชี่ยวชาญ เรื่องนี้จำเป็นมาก หลายๆคนอาจจะเข้าใจว่าถ้าเก่งแล้วไม่ต้องขอ feedback แต่ไม่จริงเลยค่ะ แม้แต่อาจารย์ที่เขียนเปเปอร์มานับไม่ถ้วน หรือนักเขียนดังๆอย่าง stephen king ก็ต้องขอ feedback เพราะอะไร? มีสองเหตุผลคือ ข้อหนึ่ง คือ เราจะไม่เห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง
Be Your Best Self

บางทีก็ต้องยอมรู้สึกโง่บ้าง ถึงจะฉลาดขึ้นนะ
เทอมนี้คิดอยู่นานมากว่าจะลงเรียนวิชาอะไรดี สุดท้ายได้ไปลงวิชาที่ทั้งปีทั้งชาติไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไปเรียน (ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึึงได้ไปลงเนี่ย อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ) ลงไปแล้วที่มหาวิทยาลัยก็ให้เวลาสองอาทิตย์ในการตัดสินใจ ถ้าจะดร็อปก็ดร็อปได้โดยไม่ติด W วิชานี้เป็นวิชาที่เราสนใจนะ แต่เราไม่มีพื้นฐานอะไรสักนิดเลย บางเรื่องคุยกันในห้องแล้วเราก็แทบจะไม่รู้เลยว่าพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ แต่เราอยากรู้อ่ะ อยากรู้ก็ต้องเสี่ยงกันหน่อยใช่ไหม คะแนนจะดีไม่ดีก็ไม่รู้เหมือนกัน จะผ่านหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่ก็ขอลองสักหน่อยแล้วกันนะ พอผ่านช่วงที่เขาให้ดร็อปไปได้แล้วก็มีมาแอบคิดอยู่ในใจเหมือนกันว่า สงสัยเราจะคิดผิดอ่ะ แต่เรียนๆไปก็รู้ว่าสนุกมากๆเลย ถึงแม้เราจะไม่รู้เรื่องซะส่วนมาก แต่ก็เพราะว่าเราไม่รู้นั่นแหละ เลยทำให้เรียนสนุก เพราะเราได้รู้อะไรใหม่ๆเยอะแยะเลย พอกลับมานั่งคิดกับตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนแนะนำให้ใครๆไปเรียนสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่บางทีเราเองก็กลับลืมไปเหมือนกันนะ

นิยามของความสำเร็จ: จากหนึ่งถึงร้อยต้องทำได้เท่าไหร่
ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ว่า จากหนึ่งถึงร้อย เราทำได้เท่าไหร่ คนที่เดิมเขาทำได้เก้าสิบห้าอยู่แล้ว พอทำได้ร้อย ก็มีคนยกย่องเต็มไปหมด แต่ในใจ ได้รู้สึกไหมว่าเป็นความสำเร็จ ถ้าเราเริ่มจากศูนย์ ไม่เคยมีใครคิดว่าจะมีปัญญาทำได้มากกว่าครึ่ง แล้ววันนี้เราทำได้ หกสิบ เราจะภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเอง หรือน้อยเนื้อต่ำใจว่า เราทำไม่ได้ร้อยเหมือนคนอื่นเขา ก็อยู่ที่ใจเราเอง

ประสบการณ์ คือ ไฟส่องให้เราเข้าใจชีวิตที่ผ่านมา
การจะรู้ว่าเราจะเรียนอะไร ชอบอะไร อยากทำอะไร คงไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็จะตัดสินใจขึ้นมาได้ หรือว่าจะให้คนอื่นมาชี้นิ้วบอก ไม่ว่าพ่อแม่ ครูอาจารย์ ก็ไม่มีใครรู้จักตัวเราดีกว่าเราเอง แต่ว่าเราเองก็มักจะบอกตัวเองว่า เราไม่รู้จักตัวเองดีพอ อยากให้คนอื่นมาบอกเราว่าทำอย่างไรถึงจะดีที่สุด ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้หรอก แต่เป็นเพราะว่า เราไม่อยากตัดสินใจ เรากลัวผิด เราจึงโยนให้คนอื่นตัดสินใจ เพราะถ้าผิดแล้ว เราก็จะได้โทษเขาได้ หรือไม่ก็เราจะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบทีหลังเวลาชีวิตเรามันไม่รุ่งอย่างที่ควรจะเป็น การที่จะเลือกทำสิ่งที่เราอยากทำจริงๆเป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่น้อย เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างที่หวังไหม ถ้าเกิดเราเลือกแล้วมันไม่เป็นอย่างที่หวังล่ะ เราต้องรับผิดเต็มๆเลยนะ? ไปโทษใครไม่ได้…..
